สถิติ
เปิดเมื่อ | 24/06/2011 |
อัพเดท | 19/02/2014 |
ผู้เข้าชม | 16446 |
แสดงหน้า | 20714 |
ปฎิทิน
|
Sun |
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
| | | | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
บทความ
|
การดูแลสุขภาพ
การดูแลสุขภาพ :: ข้อปฏิบัติตนเมื่อพบว่ามีน้ำตาลในเลือดสูง |
ภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง หรือเป็นเบาหวานนั้นเราพบว่า ถ้าปล่อยไว้นานๆ จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้มากมาย เช่นโรคไตวาย ,ความดันโลหิตสูง ,โรคหัวใจ ดังนั้นเมื่อตรวจพบว่าเป็นเบาหวานจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ ข้อปฏิบัติต่อไปนี้จะช่วยให้อาการต่างๆ ดีขึ้นตลอดจนช่วยลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ลงด้วย |
|
1. |
ควรงดของหวานและน้ำตาล ถ้าหากอยากรับประทานของหวานควรใช้น้ำตาลเบาหวานแทนน้ำตาลธรรมดา และรับประทานอาหารประเภทผัก ผลไม้แทน ทั้งนี้เพราะเนื่องจากผักและผลไม้มีใยอาหารซึ่งจะช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาลลงได้ด้วย ส่วนอาหารกลุ่มอื่น เช่น เนื้อสัตว์, แป้ง , ไขมัน ควรรับประทานอาหารให้ได้สัดส่วนที่พอเหมาะ |
2. |
ถ้าอ้วน ควรลดน้ำหนักตัวลงด้วย จากสถิติพบว่าคนไข้เบาหวานที่อ้วน เมื่อลดน้ำหนักตัวลงเรื่อยๆ จนอยู่ใกล้น้ำหนักมาตรฐานน้ำตาลในเลือดจะลดลงด้วย จนบางครั้งไม่จำเป็นต้องให้ยาเบาหวานอีกต่อไป |
3. |
ควรออกกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ให้เหมาะสมกับลักษณะสภาพร่างกายและอายุ |
4. |
ตรวจน้ำตาลในเลือดโดยสม่ำเสมอหรือตรวจดูน้ำตาลในปัสสาวะด้วยตนเอง |
5. |
ควรรับประทานยา หรือฉีดยาตามแพทย์สั่ง ถ้ามีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที |
6. |
ในบางครั้งผู้ป่วยเบาหวาน อาจมีน้ำตาลในเลือดต่ำลง ซึ่งอาจเป็นเพราะออกกำลังกายมากหรือรับประทานอาหารน้อยไป ทำให้เกิดอาการเหงื่อออก ใจสั่น คล้ายจะเป็นลม จึงควรมีน้ำตาลหรือลูกอมพกติดตัว เมื่อเกิดอาการดังกล่าวให้นำมาอมหรือกินทันที |
7. |
เนื่องจากบางครั้งผู้ป่วยเบาหวาน จะมีอาการของปลายประสาทชา ทำให้มือและเท้ารับความรู้สึกไม่ได้ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะที่เท้าต้องหมั่นตรวจดูเท้าทุกวันใส่รองเท้าที่พอดีไม่คับจนเกินไป |
|
|
การดูแลสุขภาพ :: ข้อปฏิบัติตนเมื่อมีภาวะไขมันโคเลสเตอรอลสูง |
ภาวะที่มีไขมันโคเลสเตอรอลสูงอยู่นานๆ เป็นผลให้มีเส้นเลือดแดงแข็ง และอุดตันได้ง่าย เป็นผลให้เกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมองตามมาได้ การปฏิบัติตนเพื่อลดไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดทำได้ดังนี้ |
|
พยายามลดอาหารประเภทไขมัน อาหารที่ปรุงแต่งโดยวิธีทอด , ผัด มักมีไขมันมากควรใช้วิธีนึ่ง หรือต้มแทน ลดการรับประทานอาหาร นม เนย กะทิ มันหมู ฯลฯ |
ลดปริมาณของอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง ซึ่งได้แก่ ไข่แดงของเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไข่เป็ด ไข่นก ไข่เต่า และกุ้ง ฯลฯ เครื่องในสัตว์ หนังสัตว์ เช่น หนังเป็ด หนังไก่ ฯลฯ |
ใช้น้ำมันพืชในการปรุงอาหารแทนการใช้น้ำมันหมู เนื่องจากน้ำมันพืช (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม) จะมีกรดไลโนเลอิคสูง ซึ่งกรดไลโนเลอิคนี้ จะช่วยเผาผลาญ โคเลสเตอรอล ทำให้ระดับของโคเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ |
เพิ่มการรับประทานอาหารที่มี FIBER (ใยอาหาร) มากขึ้น ซึ่งอาหารที่มีใยอาหารมากพบได้ในพืช ผัก ผลไม้ |
|
กรุณาปฏิบัติเช่นนี้ประมาณ 1-2 เดือน แล้วมาตรวจดูไขมันโคเลสเตอรอลอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากระดับลดลงจนปกติ ควรปฏิบัติเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากระดับยังสูงกว่าปกติมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาช่วยลดไขมัน |
|
|
การดูแลสุขภาพ :: ข้อปฏิบัติตนเมื่อไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง |
ภาวะไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง แม้ว่าจะไม่อันตรายเท่าไขมันโคเลสเตอรอลสูง แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ให้สูงอยู่นานๆ ก็จะเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ภาวะดังกล่าวนี้จะลดลงได้ถ้าหากได้ปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ |
|
ควรลดน้ำหนักลงมาให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หรือใกล้เคียง ถ้าหากเป็นคนอ้วน |
ลดการรับประทานอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล เนื่องจากอาหารกลุ่มนี้ สามารถที่จะเป็นไตรกลีเซอไรด์ในร่างกายได้โดยง่าย กลุ่มอาหารดังกล่าว ได้แก่ ข้าว , ขนมปัง , ก๋วยเตี๋ยว ,ของหวาน , น้ำหวานต่างๆ |
งดดื่มสุรา เบียร์ต่างๆ และงดสูบบุหรี่ เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับไขมันเพิ่มขึ้น |
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ไขมันชนิดนี้ลดลงได้ |
ลดอาหารที่มีไขมันสูง และใช้น้ำมันพืชปรุงอาหารแทนน้ำมันจากไขมันสัตว์ (ยกเว้นน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม) |
|
กรุณาปฏิบัติเช่นนี้ประมาณ 1-2 เดือน แล้วมาตรวจดูไขมันไตรกลีเซอไรด์อีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากลดลงจนมาอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ให้ปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากตรวจพบว่าระดับยังสูงกว่าปกติมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาช่วยลดไขมัน |
|
|
การดูแลสุขภาพ :: ข้อปฏิบัติตนเมื่อตรวจพบว่ามีกรดยูริคในเลือดสูง |
ภาวะที่มีกรดยูริคในเลือดสูงอยู่นานๆ ก่อให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง เช่น โรคเก๊าท์ คือ ภาวะที่มีข้ออักเสบเนื่องจาก กรดยูริคไปตกตะกอนในข้อ , นิ่วที่กรวยไต , ไตวาย เป็นต้น การลดระดับของกรดยูริคในเลือด จะช่วยป้องกันภาวะต่างๆ ได้โดยการปฏิบัติดังนี้ |
|
1. |
ดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากกรดยูริคจะขับออกทางปัสสาวะได้ดีขึ้น และช่วยไม่ให้ตกตะกอนได้ง่าย |
2. |
ไม่ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะพบว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กรดยูริคตกตะกอนในข้อได้ง่าย ทำให้มีข้ออักเสบตามมา |
3. |
ลดอาหารบางอย่างที่จะไปเพิ่มระดับของกรดยูริคในเลือดได้ เช่น เครื่องในสัตว์ , สัตว์ปีก ,หน่อไม้ฝรั่ง , แตงกวา , ยอดผัก ฯลฯ |
4. |
ถ้ามีน้ำหนักเกิน ควรลดน้ำหนัก จะช่วยให้กรดยูริคในเลือดลดลงได้ |
|
|
เมื่อปฏิบัติดังนี้ แล้วยังมีอาการของข้ออักเสบอยู่บ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาลดระดับของกรดยูริคในเลือด |
|
|
การดูแลสุขภาพ :: ข้อปฏิบัติตนเมื่อพบว่ามีความดันโลหิตสูง |
ภาวะที่มีความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง (ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ ไขมันโคเลสเตอรอลสูง , การสูบบุหรี่ , อ้วน , ไม่ได้ออกกำลังกาย ,เคร่งเครียด ฯลฯ) เพื่อช่วยลดระดับความดันโลหิตสำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าเริ่มมีความดันโลหิตสูงแล้ว ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้ |
|
|
1. |
งดอาหารที่มีรสเค็ม เช่น ไข่เค็ม ปากเค็ม กะปิ เต้าเจี้ยว หมูเค็ม ฯลฯ อาหารที่รับประทานควรปรุงด้วยเกลือหรือน้ำปลาน้อยที่สุด |
2. |
ลดอาหารมันทุกชนิดและหลีกเลี่ยงไขมันสัตว์ ขาหมู หมูสามชั้น อาหารประเภททอดหรือผัด อาหารที่ปรุงด้วยกะทิ ควรใช้น้ำมันพืชปรุงอาหาร ควรรับประทานไข่ไม่เกิน 3 ฟอง ต่อสัปดาห์ |
3. |
หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมหวาน และผลไม้หวาน เช่น ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ |
4. |
งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ |
5. |
ทำจิตใจให้สบายไม่เครียดวิตกกังวล |
6. |
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ |
7. |
ตรวจวัดความดันโลหิตและตรวจวัดระดับโคเลสเตอรอลสม่ำเสมอ |
8. |
ติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ |
|
|
ถ้าหากได้ปฏิบัติเช่นนี้แล้ว ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่มาก ความดันโลหิตมักจะลดลงมาจนเป็นปกติ สำหรับผู้ที่รับประทานยาควบคุมความดันโลหิตสูง ก็จะสามารถลดขนาดของยาลงได้ |
|
|
|
|
|
|
|